คัมภีร์หน้าใส : ล้างหน้าให้สะอาดคือหัวใจสำคัญ
Posted by IamMorya
Posted on 21:05
with No comments
หัวใจของใบหน้าที่เกลี้ยงเกลา คือใบหน้าที่สะอาด
ไม่ว่าแต่ละวันผิวหน้าจะเจอกับอะไร แต่สุดท้ายใบหน้าจะต้องสะอาด
มลพิษต่างๆ รวมถึงแป้ง เครื่องสำอาง จะต้องไม่ตกค้างอยู่บนผิว
แต่ความต้องการอื่นที่มากกว่าความสะอาด ทำให้โฟม/ครีม/สบู่ล้างหน้าเสียคุณค่าที่แท้จริงไป
เราคงไม่อาจปรารถนาความใสไปจนถึงขาวสว่างออร่ามีน้ำมีนวลจากโฟม/ครีม/สบู่ล้างหน้าที่สัมผัสใบหน้าแค่ในเสี้ยวนาที
แค่ทำความสะอาดผิวหน้าได้สะอาดจริง ไม่ทิ้งสิ่งตกค้าง ไม่ระคายเคืองผิวได้
ไอเท็มล้างหน้าทั้งหลายแหล่ก็ทำหน้าที่ตัวเองได้บริบูรณ์แล้ว
ไอเท็มล้างหน้ามีรูปแบบหลากหลาย
เบื้องต้นขอแบ่งเป็น 2 แบบคร่าวๆ คือสบู่ก้อนและสบู่เหลว
สบู่ก้อน : ทั้งแบบที่ได้จากปฏิกิริยา Saponification และจากการสังเคราะห์ pH จะเป็นด่าง(มากกว่าpHผิวคือ 5.5)
สบู่เหลว : ใช้สารทำความสะอาด Surfactant ทั้งแบบประจุบวก ลบ และไม่มีประจุ (ตามที่ผู้ผลิตเลือกใช้)ที่ปรับ pH5.5ได้
การที่ผิวมีpH5.5 คือเป็นค่าความเป็นกรดเบสที่เหมาะสมกับผิวที่สุด
ถ้ามีเหตุให้pHเปลี่ยนไปผิวจะปรับตัวเองให้คืนสู่ธรรมชาติคือ5.5
ถ้าใครสุขภาพผิวดีหน่อย ก็อาจจะใช้ไอเท็มทำความสะอาดที่เป็นเบสได้
แต่ใครมีสุขภาพผิวไม่ดีนัก อาจมีสัญญาณเตือนจากผิวให้รู้ว่า "ฉันไม่ไหวแล้ว" ผ่านอาการระคายเคือง หรือสิว
ต่อมาเรื่องฟอง
ฟองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการช่วยทำความสะอาด
การเลือกใช้สารทำความสะอาดก็มีผลในตัวของมันเอง
เช่นถ้าเลือกใช้แบบประจุบวก หรือลบ สบู่ก็จะมีฟองมาก
__ถ้าเลือกใช้แบบไม่มีประจุ จะมีฟองน้อยหรือไม่มีฟอง
หลายคนบอกว่าฟองคือผลพลอยได้ มีนก็จริง, แต่จริงๆแล้วเราเลือกได้ว่าจะให้มีหรือไม่มี
นอกจากนี้ยังมีการใส่สารเพิ่มฟอง เพราะผู้ใช้มักชอบไอเท็มทำความสะอาดที่มีฟองแยอะๆ
ถ้ามองตามคุณสมบัติจากสาร การไม่มีฟองจะทำให้มีการระคายเคืองน้อยกว่า
ถ้าผู้ใดเปลี่ยนไอเท็มทำความสะอาดจนไม่ไหวจะเคลียร์แล้วยังระคายเคืองอยู่
ลองมองหาไอเท็มทำความสะอาดที่ไม่มีฟอง และมีค่าpHเท่าผิวคือ 5.5 ดูค่ะ คุณอาจได้พบทางออกที่หามานาน
เรื่องที่สาม เจล/ครีม
เมื่อนำไอเท็มที่มีคุณสมบัติไม่มีฟอง pH5.5เหมือนกัน แต่ลักษณะต่างกันคือเป็นเจลและครีมมาพิจารณา
การใช้ครีมเบสเพื่อให้เกิดเป็นเจลกับครีม ใช้ส่วนประกอบที่แตกต่างกัน
เจล จะใช้สารพวกโพลีเมอร์(ซึ่งแบ่งย่อยได้อีกหลายชนิด)ซึ่งอุ้มน้ำได้แยอะมาก
___ในไอเท็มเจลล้างหน้าอาจใช้สารพวกนี้แค่ 0.5% กับน้ำ*สูงถึง 70+% ของสารทั้งหมดในสูตร
___และให้ลักษณะเนื้อสารที่ใส(จากการปรับpH ในส่วนประกอบของเจลเราจึงอาจพบ Triethanolamine อยู่ในสูตรได้)
___การทำเจลค่อนข้างจะง่าย เพียงเตรียมน้ำ(ที่อาจเติมกลีเซอรีนลงไปด้วย)แล้วโปรยสารก่อเจล แค่นี้เราก็ได้เจลแล้ว
เพียงแต่เจลที่ได้ในขั้นตอนนี้จะยังขุ่น เราก็เติมสารปรับpHพร้อมสารสำคัญและอื่นๆเช่นสารกันเสีย**ลงไป
ครีม ใช้สารพวกน้ำมันและน้ำผสมเข้าด้วยกัน เนื้อสารที่ได้จะขุ่นและหนักกว่าแบบเจล
___ในการผลิตความยุ่งยากซับซ้อนก็จะมีมากกว่าครีม คนสิบคนผลิตครีมด้วยสูตรเดียวกัน คุณภาพที่ได้จะแตกต่างกันมาก
ในด้านการทำความสะอาดระหว่างเจลกับครีมจึงขึ้นกับครีมเบสเป็นประการสำคัญ
คนที่ผิวหน้าอ่อนแอมากๆ(โดยเฉพาะผิวที่มันร่วมด้วย) อาจเหมาะกับรูปแบบเจลมากกว่าครีม
คนที่ผิวหน้าอ่อนแอมากๆ มากๆๆๆๆ
จึงแนะนำไอเท็มล้างหน้าที่เป็น 1. เจล /2. pH5.5 /3. ไม่มีฟอง
*เป็นน้ำที่ต้องควบคุมคุณภาพ
หลายคนทราบว่าในเจล100กรัม มีน้ำอยู่มากถึง 70กว่ากรัมก็ตกใจว่าทำไมต้องซื้อน้ำแพงขนาดนี้
ที่จริงแล้วแม้จะเป็นน้ำก็ต้องเป็นน้ำที่ผ่านมาตรฐาน
นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็นอื่นๆ เช่น ค่าเสียหายจากการพัฒนาสูตร ค่าครีมสุ่มทดสอบ ค่าทำความสะอาด เป็นต้น
ซึ่งกระบวนการในส่วนนี้ระดับของคุณภาพระหว่างครีมทั่วๆไป กับครีมเคาท์เตอร์จะแตกต่างกัน
ทำให้ต้นทุนของครีมบางชนิดต่ำจนคาดไม่ถึงได้
**หลายคนได้ยินคำว่าสารกันเสียแล้วไม่ชอบ แต่ในทางการผลิตและคุณภาพเราไม่อาจหลีกเลี่ยงพวกเขาได้
ด้วยในสูตรซึ่งมีน้ำสูงถึง70+% ทำให้แบคทีเรียชอบและมาเติบโตในเจลได้
เหมือนยาน้ำ ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการใช้เทคนิคกันเสียไม่ได้
เราจึงพบยาน้ำสูตรที่ใช้แอลกอฮอล์บ้าง สูตรที่โฆษณาว่าไร้สารกันเสียบ้าง แตกต่างกันไป
Written by : Your Name - Describe about you

Join Me On: Facebook | Twitter | Google Plus :: Thank you for visiting ! ::
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น