ทำไมหนอ... เวลาที่เราเป็นหวัดจะต้องมีไข้ขึ้นสูงด้วย
ไข้หวัดส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งเชื้อไวรัสนี้ไม่ทนต่อความร้อน
การที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น 38-40องศาเซลเซียสนั้น เป็นการต่อสู้กับไวรัสอย่างหนึ่งของร่างกาย
จริงอยู่! ที่การมีไข้ไม่ดีต่อคนเรา แต่ก็เป็นสภาวะทีี่ไม่ดีต่อไวรัสเช่นกัน
นี่คือเหตุผล ว่าทำไมร่างกายเรามีไข้ขึ้นสูงเมื่อเราเป็นหวัด
ด้วยข้อจำกัดด้านอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อไวรัสไข้หวัดธรรมดา
รวมไปถึงไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก ไข้หวัดหมู ไข้หวัดบลาๆๆนี่เอง
ทำให้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ต้องผลิตและเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ
ด้านผู้ป่วยและญาติ เวลาเป็นไข้หวัดแล้วเป็นไข้ขึ้นสูง ก็ดูแลผู้ป่วยไปตามอาการ
ขอให้เข้าใจว่าตอนนี้ร่างกายกำลังต่อสู้กับไวรัส ขอให้เสริมทัพให้ร่างกายด้วยการดูแลตัวเอง ทานอาหารพักผ่อนให้เพียงพอ
ไม่จำเป็นต้องร้องขอยายาปฏิชีวนะเพราะไม่มีประโยชน์ใดๆ ซ้ำร้ายยังเกิดโทษ
ยาปฏิชีวนะกับไข้หวัดรวมถึงเจ็บคอนั้น ใช้ในบางกรณีที่มีข้อบ่งใช้ตามที่แพทย์เห็นสมควรเท่านั้น
คือกรณีที่เป็นหวัดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและมีอาการแสดงหรือโรคประจำตัวบ่งใช้ว่าจะต้องกิน
ยาปฏิชีวนะนั้น ถ้ากินพร่ำเพรื่อย กินดักไข้ อันตรายมากจ้าา
ในขณะเดียวกันยาปฏิชีวนะก็มีข้อบ่งใช้้อื่นที่ไม่เกี่ยวกับแบคทีเรียด้วย
เช่น บางเคสที่ต้องทานยาปฏิชีวนะก่อนถอนฟัน เป็นต้น
ฉะนั้น ถ้าไม่มีอาการด้านติดเชื้อแบคทีเรียแล้วหมอให้กินยาปฏิชีวนะ ก็ไม่ต้องกังวลไปจ้า
การใช้ยามีความเหมาะสมในแต่ละคนในแต่ละโรคในแต่ละครั้งหยุมหยิม
การใช้ยาไม่ได้ง่ายแค่เป็นหวัดแล้วกินยาแก้หวัด ทางการแพทย์ไม่มียาแก้นะ มีแต่พยาธิสภาพโรคและกลไกของยา
คนไข้ไมเกรนบางคนต้องกินยากันชักหรือยาโรคหัวใจเลยเชื่อป่าว?
ฤดูฝนมาแล้ว ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงนะคะ
ตู้ยาสามัญประจำบ้านสำรองแค่ยาสามัญประจำบ้านก็เพียงพอไม่ต้องสำรองยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษนะคะ
ยามีสองด้าน มียาดีแต่ใช้ผิดจะเป็นพิษมากกว่าประโยชน์นะคะ #ขอบอก #ขอบอก
Home »
ไข้หวัด
,
มีไข้
,
หวัด
» ข้อดีของการเป็นหวัดแล้วมีไข้, ทำไมหมอไม่ให้กินยาปฏิชีวนะ, ตู้ยาในบ้านควรและไม่ควรมียาอะไร
ข้อดีของการเป็นหวัดแล้วมีไข้, ทำไมหมอไม่ให้กินยาปฏิชีวนะ, ตู้ยาในบ้านควรและไม่ควรมียาอะไร
Posted by IamMorya
Posted on 23:22
with No comments
Written by : Your Name - Describe about you

Join Me On: Facebook | Twitter | Google Plus :: Thank you for visiting ! ::
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น